วันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2557

ตำนานเทพี อาธีน่า


กล่าวถึงเทพนิยายกรีกนั้น เป็นความเชื่อของชาวกรีก โบราณที่นับถือเทพเจ้าต่างๆ และได้เล่าสืบต่อมาจนถึงปัจจุบัน ใบบล็อคนี้จะขอกล่าวถึงเทพที่เจ้าของ Blog สนใจเป็นพิเศษ นั่นคือ อาธีน่า (Atenna) [ภาษากรีกคือ əˈθinə]” ซึ่งเป็นเทพที่เจ้าของ Blog นั้น สนใจเป็นพิเศษ

อาธีน่า (Atenna)


          กล่าวว่า อาธีน่านั้น เป็นเทพแห่งปัญญา และสงคราม อาธีน่านั้นเป็น ลูกสาวของ เทพซุส (Zeus) [ภาษากรีก Ζεύς, Zeús] ซึ่งเป็น เทพสูงสุดของ เทือกเขาโอลิมบัสเป็นที่อยู่ของทวยเทพทั้งหลาย เทพซุสนั้นเป็น 1 ใน 3 ผู้ปกครองทวยเทพทั้งหลาย ซึ่งได้แก่ ซุส ผู้ปกครอง โลกมนุษย์ เทพโพรไซดอน (Poseidon) [ภาษากรีก Ποσειδών, [pose͜edɔ́͜ɔn]] ปกครองมหาสมุทร และ เทพองค์สุดท้ายค่อ เฮดีส (Hades) [ภาษากรีก ιδης/δης, Hāidēs] มารดาของ อาธีน่าคือ เมทิส (Matis) [ภาษากรีก μτις] ชายาคนแรกของซุส ซึ่งเป็นผู้ที่ฉลาดปราดเปรื่องมาก (เป็นคนคนที่ทำให้ โครนอส ที่กลืนกิน พี่น้อง ของซุส ออกมา ตามตำนาน เมื่อเมทิสตั้งครรภ์ ความหวาดระแวงก็เกาะกุม จิตใจขอซุส ด้วยกลัวว่าเมทิสจะให้กำเนิดบุตรชายที่ฉลาด,งดงาม และจะยิ่งใหญ่กว่าตน จึงจับเมทิสกลืนเข้าไป
หลังจากที่เวลาผ่านไป ซุส ได้มีชายาองค์ใหม่ นามวา เฮร่า (Hera) [ภาษากรีก Ήρα, Ήρη] ซึ่งเป็นเทพที่มีสิริโฉมงดงามที่สุดบนเทือกเขาโอลิมบัส และ ซุส ได้มีทายาทอีกมากมายทั้งกับ เฮร่าเอง และทั้งเทพีต่างๆ นางไม้ นางพราย และกับมนุษย์ จน ซุส เองได้ลืมเลือนไปว่าตนนั้นได้ กลืน เมทิส ที่กำลังตั้งภรรภ์ลงไป จนวันหนึ่ง ซุส เกิดปวดท้องโดยไร้สาเหตุ ถึงแม้มีเทพแห่งการแพทย์ มาดูอาการก็ยังไม่หาย จนอาการปวดท้อง มีอาการปวดมากขึ้น ซุส จึงสั่งให้ ฮิฟีสตัส (Hephaestus) [ภาษากรีก hɪˈfiːstəs] ซึ่งเป็นเทพแห่งช่ายตีเหล็ก นำขวานมาจามศรีษะของตนออก เพื่อดูให้รู้ว่า เป็นเพราะอะไรแน่
ทันทีที่ขวานของ ฮิฟีสตัส จามลงบนศรีษะของ ซุส ก็มีเทพธิดาผู้หนึ่งกระโดดออกมาจากรอยแยกนั้นในรูปลักษณ์เจริญวัยเต็มที่ สวมเสื้อเกราะ หมวกเกราะ เทพีนั้นก็คุกเข่าเบื้องหน้า ซุส และกล่าวว่า ตนนั้นคือ อาธีน่า บุตรแห่ง เมทิส
อาธีน่า นั้น เป็นเทพแห่งความงามและสติปัญญา เป็นบุตรที่ ซุส โปรดปรานมากที่สุด ซึ่งดูได้จาก การแข่งขันตั่งชื่อเมือง เอเธนส์ (Athens) [ภาษากรีก Αθήνα] ระหว่าง โพรไซดอน และ อาธีน่า โพรไซดอน ผู้เป็นเทพเจ้าแห่ง มหาสมุทร และท้องทะเล นั้นได้ใช้ตรีศูลอาวุธคู่กายของตนเนรมิตร ม้าขึ้นมา(บางความเชื่อก็กล่าวว่าสร้างน้ำพุขึ้นมา) ชาวเมืองต่างชื่นชมม้าเป็นอันมาก แต่ อาธีน่า กลับเนรมิตร ต้นมะกอก ขึ้นมา ซื้อสามารถใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย นอกจากนั้นแล้ว มะกอก ยังเป็นสัญลักษณ์แห่งสันติภาพ ในขณะที่ม้านั้นเป็นสัญญาลักษณ์แห่งสงคราม ชาวเมืองจึงได้ตั้งชื่อเมืองว่า เอเธนส์ ตามชื่อของพระนาง และมะกกอกนั้น ก็กลายเป็นผลไม้เศรษฐกิจสำคัญอันดับหนึ่งของ กรีซมาจนถึงปัจจุบัน
อาจกล่าวได้ว่า อาธีน่า เป็นเทพที่ชาวกรีกให้ความนับถือมากที่สุดก็ว่าได้ ในสมัยโบราณมีการสร้างมหาวิหารเพื่อถวายแด่พระนาง คือ วิหารพาเธนอนซึ่งตั้งอยู่ที่เนินอะโครโปลิส ที่กรุงเอเธนส์ในปัจจุบัน ในการท่องเที่ยวของกรีซ จะพบรูปปั้นขนาดเล็กของอาธีน่าขายเป็นที่ระลึกอยู่ทั่วไป
อาธีน่า ยังเป็นเทพธิดาแห่งชัยชนะ ที่คอยปกป้องเหล่านักรบในสงครามตามความเชื่ออีกด้วย อาธีน่านั้นจะปรากฏตัวในการสู้รบ นางมีอำนาจที่จะตัดสินว่าใครชนะหรือแพ้ นาง จะมอบความกล้าหาญ ฮึกเหิม เต็มไปด้วยสติ ไตร่ตรองอย่างชาญฉลาด และปกป้องผู้ที่ควรเรียกว่าวีรบุรุษเท่านั้น ซึ่งถ้านางเข้าข้างฝ่ายใดแล้วก็มักจะมีชัยเสมอ ด้วยเหตุนี้นางจึงได้รับการยกย่อง เช่นนี้
โดยรวมแล้ว อาธีน่า เป็นเทพที่มีจิตใจเออารี ชอบช่วยเหลือผู้อื่น ในสงครามแห่งอีเลียด ที่ว่าด้วยสงครามแห่ง ชาวกรีก และโทรจัน อาธีน่าก็มีบทบาทในการช่วยเหลือเหล่าวีรบุรุษกรีกมากมากหลาครั้ง
อาธีน่า ยังมีบทบาทมากมายในตำนาน การผจญภัยของเหล่าวีรบุรุษ ต่างๆมากมาย เช่น
- ช่วยให้การแนะนำในการต่อเรืออาร์โก ที่ใช้ในการตามหาขนแกะทองคำ ของผู้กล้า
- บอกวิธีสังหารเมดูซ่าแก่ เพอร์ซีอุส
- ช่วย เอเออีอุส สร้างม้าไม้
- มอบบังเหียนวิเศษเพื่อใช้ควบคุม เพกาซัส(ม้าในเทพนิยายกรีก กล่าวว่าเพกาซัส นั้นมีปีกสามารถบินได้) แด่เบลเลโรฟอน
ฯลฯ
แต่ด้วยนิสัยแห่งเทพในตัว อาธีน่า ซึ้ง มีขึ้นมีลงนั้น เทพธิดา ผู้ใจดีอย่าง อาธีน่า ก็สามารถเปลี่ยนเป็นเป็น โกรธเกรี้ยวได้เช่นกัน อย่างกรณีของ อาแรคเน่ หญิงชายวไลเดียน ผู้มีพรสวรรค์ในการทอผ้าได้อย่างงดงาม เธอได้ท้าทาย อาธีน่า ผู้ซึ่งเป็นเทพแห่งสติปัญญา เพื่อแข่งขันการทอผ้า อาธีน่า ได้รับคำท้าด้วยหวังจะสั่งสอนให้รู้สำนึก อาธีน่าจึงได้จำแลง ตนเป็นหญิงชรา เพื่อไปเตือนอาแรคเน่ ไม่ให้ท้าทายเทพเจ้า แต่ อาแรคเน่ เองกลับ พูดถากถาง และขอให้ อาธีน่า มาแข่งขันเพื้อพิสูจน์ฝีมือกับตน อาธีน่า จึงกลับสู่ร้างเดิม แล้วได้แข่งขับกับ อาแรคเน่
เทพีอาธีนาทอผ้าออกมาเป็นลวดลายตอนที่นางมีชัยเหนือ โพรไซดอน เมื่อครั้งที่แข่งขันตั้งชื่อเมืองเอเธนส์  และชาวเมืองเอเธนส์ได้ตั้งชื่อเมืองตามพระนามของนาง ส่วนลายผ้าของอารัคเนเป็นเรื่องราวของ ซุส เป็นภาพเหตุการณ์ตอนที่มหาเทพแอบมีสัมพันธ์ชู้สาวกับ เจ้าหญิงลีดา ยูโรปา และ และองค์หญิงดาเนย์
ถึงแม้ว่าเทพีอาธีนาจะยอมรับว่าฝีมือการทอผ้าของ อาแรคเน่ จะยอดเยี่ยมไร้ ที่ติ แต่หัวข้อที่นางหยิบยกขึ้นมาใช้เป็นลวดลายทำให้เทพีไม่พอใจอย่างมาก ในที่สุดเทพีอาธีนาก็หมดความอดทน นางได้ทำลายผ้าทอผืนนั้นและที่ทอผ้า รวมทั้งทุบศีรษะของสาวทอผ้า อารัคแนลุแก่ความเขลาของตนและรู้สึกอับอายเป็นอย่างมาก นางจึงวิ่งหนีออกไปและแขวนคอตาย
เทพีอาธีนานึกสงสารหญิงทอผ้า นางจึงพรมน้ำจากดอกอะโคไนท์ และปลดเชือกที่ผูกคอซึ่งกลายเป็นใยแมงมุม ขณะที่ร่างของ อาแรคเน่ ก็เปลี่ยนเป็นแมงมุม ราวเรื่องบ่งบอกว่าต้นกำเนิดการทอผ้าได้เลียนแบบมาจากแมงมุมและเชื่อกันว่า ได้รับการปรับปรุงเป็นครั้งแรกในกลุ่มประเทศทางเอเชียตะวันตก
          อาธีน่า พำนักอยู่ที่ เทือกเขาโอลิมบัส และ อโครโปลิสแห่งเอเธนส์ มีต้นมะกอกเป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ คำว่า อาธีน่า เป็นชื่อเรียกในภาษากรีก ส่วนภาษาโรมันนั้นคือ มิเนอร์ว่า

     
          อ้างอิงจาก http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%99%E0%B8%B2 และ http://sairaja-o-ros.blogspot.com/2013/01/athena.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น